หลายท่านอาจมีความสงสัยในเรื่องของไฟฟ้าที่เราใช้ในชีวิตประจำวันว่าผลิตมาได้จากไหน ก่อนที่ทุกท่านจะได้ทราบถึงแแหล่งที่มา SE&S จะขอแนะนำทุกท่านให้รู้จักกับเทคโนโลยีที่มีมาอย่างยาวนานนั่นคือ Generator ไม่ว่าเทคโนโลยีจะเปลี่ยนไปมากขนาดไหน
เจ้า Generator ก็เป็นเทคโนโลยีที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมาแล้วกว่า 200 ปี (ตั้งแต่กรุงรัตนโกสินทร์ เลยนะครับ) ซึ่งก็มีหลักทำงานง่ายๆโดยการใช้ขดลวดเคลื่อนที่ตัดผ่านสนามแม่เหล็ก แล้วเหนี่ยวนำให้เกิดกระแสไฟฟ้า เจ้าตัว Generator นี้แหละครับคือหัวใจหลักของการเปลี่ยนรูปแบบพลังงาน
จากพลังงานกล ไปเป็น พลังงานไฟฟ้า นั่นเอง ซึ่งพลังงานกลที่ว่าคือพลังงานที่ทำให้เกิดการหมุน เพื่อให้สนามแม่เหล็กตัดกับตัวขดลวดครับ และเพื่อให้การสร้างพลังงานไฟฟ้าให้เพียงพอนั้น จะต้องมีตัวขดลวด และ แม่เหล็กที่มีขนาดใหญ่มากๆ ทำให้ต้องการแรงที่ทำให้ตัวเครื่องกำเนิดไฟฟ้าหมุนเยอะมาก
ซึ่งในปัจจุบันจะมีการหมุน Generator แตกต่างกัน ดังนี้
1 ใช้แรงดันน้ำในการหมุน วิธีนี้จะใช้น้ำที่อยู่ในที่สูง ปล่อยลงมาในที่ต่ำ ซึ่งน้ำจากที่สูงจะกักเก็บพลังงานศักย์ไว้ที่ตัว และเปลี่ยนจากพลังงานศักย์เป็นพลังงานจลน์ในตอนที่วิ่งลงจากที่สูงสู่ที่ต่ำ และนำพลังงานนั้นไปหมุน Generator ตัวอย่างของเทคนิคนี้คือ เขื่อน หรือ อ่างเก็บน้ำต่างๆที่มีโรงไฟฟ้าอยู่นั่นหละครับผม
2 ใช้ไอน้ำในการหมุน วิธีนี้จะซับซ้อนกว่าหน่อยตรงที่จะไม่ใช้พลังงานศักย์ที่เก็บอยู่ในน้ำแล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานจลน์ตรงๆ แต่จะใช้พลังงานความร้อนเปลี่ยนจากน้ำเป็นไอน้ำที่มีแรงดันเป็นพลังงานกล ซึ่งจะแยกย่อยเป็นสองประเภทคือ
2.1 การผลิตจากถ่านหิน วิธีนี้จะใช้เชื้อเพลิงดึกดำบรรพ์เข้ามาเผาในเตาเผา เพื่อสร้างความร้อนเข้าไปในหม้อต้ม และนำแรงดันไอไปปั่นใบพัดที่เรียกว่าเทอร์ไบน์ เพื่อทำให้ Generator หมุน และผลิตกระแสไฟฟ้าเข้ามานั่นเอง
2.2 การผลิตจากพลังงานนิวเคลียร์ วิธีนี้จะซับซ้อน และ อันตรายยิ่งกว่า โดยการเปลี่ยนจากเชื้อเพลิงดึกดำบรรพ์มาใช้เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพื่อต้มน้ำแทนครับ โดยข้อดีของเค้าคือเป็นเทคโนโลยีที่ราคาค่อนข้างถูกถ้าเทียบกับพลังงานที่ผลิตได้ แต่ต้องแลกมากับการควบคุมความเสี่ยง
ในปัจจุบันเรามีหลากหลายเทคโนโลยีในการผลิตไฟฟ้าซึ่งในบทความต่อไปเราจะนำส่วนนี้มาเล่าให้ทุกท่านฟัง โปรดติดตามด้วยนะครับ